สงบเสงี่ยมเจียมปากเป็นเรื่องดี กูไม่พล่ามมาก ปีนี้กูได้ไปเที่ยวไกลๆในหน้าหนาว ได้พบเห็นสิ่งแปลกใหม่ที่กูไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต ช่วงที่กูไปเที่ยวมันหนาวและทั้งแรงลมยิ่งทำให้หนาวสั่นงั่กๆๆๆ ผิวก็แตกคันยิบๆๆๆ กูเป็นคนไม่ชอบทาครีมที่ผิวด้วย ก็ทาหน้าเฉยๆไม่งั้นหน้ากูคงแสบเป็นแผล

ในระหว่างที่กูอยู่ในเส้นทางคิวนาร์ดครุยส์ได้ยินเสียงหวูดเรือดังขึ้นเป็นการคารวะทักทายสองครั้งยาวๆ กัปตันบอกว่าแตรเรือลำนี้แกะมาจากเรือควีนแมรี่ที่ 1 ที่ปลดประจำการไปแล้ว กูหวลคิดถึงน้องปุ้น เค้าเป็นแค่กระต่ายตัวเล็กๆ แต่ในความรู้สึกของกูเค้ายิ่งใหญ่กว่าเรือเดินสมุทรลำนี้เสียอีก กูก็ยอมรับละว่าฝีมือมนุษย์นั้นสุดยอดและยิ่งใหญ่น่าดู แต่กูก็ไม่ได้ตื่นเต้นไลมากมาย เพราะถ้าคนเก่งจริง ก็ชุบชีวิตน้องปุ้นได้ก่อนเด่ะกูถึงจะยอมรับ

เรือลำที่กูไปใหญ่บ้าเหะ แต่ก็ไม่เน้นหรูหราอะไรมากมายนัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ แต่งตัวก็ง่ายๆสบายๆตามแบบพวกอเมริกันชนที่ไม่ค่อยเน้นความโอ้อวด ถ้าสำหรับคนที่ชอบความสวยงามหรูหราคิดว่าเรือควีนอลิซเบธนั้นจะงดงามหรูหราใกล้เคียงเรือไททานิค มากกว่า ไอ้ที่รู้นี่ไม่ใช่กูเคยขึ้นนะ คือว่าในเธียเตอร์เค้าฉายให้ดู มีพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระนางเจ้าอลิซเบธที่ 1 และ 2 ในห้องโถงใหญ่ คนชอบไปถ่ายรูปคู่กะภาพนั้น(แต่ลำที่กูไปเป็นรูปเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ ก็ตราประทับของบอสัดคิวนาร์ดอ่ะแหละ) และไม่ว่าจะเป็นแชนเดเลียก็ลอกเลียนแบบมาจากดวงโคมของไททานิคที่หอยจับอยู่ใต้ทะเลนั่นแหละ เพียงแต่มีคู่กันสองดวงที่เพดาน บรรใดก็เป็นบรรใดคู่ ส่วนลำที่กูไปมันเป็นเรียบๆ ไม่ได้วิลิสมาหราอะไรมากมาย ห้องพักก็เล็กๆ ห้องที่ติดระเบียงจะมีราคาที่แพงกว่าห้องตรงกลาง


เรือนิ่งสนิทแม้ยามกำลังขับน้ำเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วโดยใช้กัปกันเรืออัตโมมัติ มันขับเองตามเรด้าจีพีเอส กัปตันเรือแจ้งว่ามีตุ้มน้ำหนักขนาดใหญ่ถ่วงไว้ด้านนอกใต้เรือเพื่อกันเรือโคลง

ที่บนลานดาดฟ้าเห็นมีคู่ฮันนีมูน หน้าตาเป็นคนเอเซียกำลังอุ้มเจ้าสาวหมาดๆถ่ายรูป กูยืนมองอยู่ไกลๆ กูยิ้มให้ตามมารยาท(ทั้งที่กูอยากจะอาเจียนมากกว่า) ไม่ได้อิฉา กูไม่อิฉาหรอก แต่กูว่าคนเอเซียไม่ค่อยมีมารยาท

กูประทับจัยท้องฟ้าจำลอง เพราะมันตรงกะความรู้สึกภายในของกู คือมันกว้างๆมืดๆเงียบๆ เหมือนเรานอนหงายท้องอยู่บนห่วงยางสีดำอันโตอยู่เดียวดายบนผืนน้ำอันกว้างใหญ่ แหงนมองดูดวงดาวที่กำลังพล่างพราวระยิบระยับอู่บนท้องฟ้า หนาวเยือกแต่กูห่มด้วยผ้าห่มขนสัตว์เทียม มันอุ่นมากทีเดียว เล่นเอาคนข้างๆยิ้มแล้วก็พูเดว่าอิจฉาผ้าห่มของกูจัง กูอนุญาตให้เค้าเอามือมาจับและซุกได้ พวกผู้หญิงชอบกันมากเลย เฮ๊ยยย...กูรักโลกจัง กูอยากฆ่าไอ้พวกที่ทำโลกร้อน ชอบเผาขยะ ชอบทำสกปรก

ตอนนี้สมองกูยังเบลอๆมึนๆกูหนาว กูเป็นคนเดียวที่เดินทางคนเดียว ในขณะที่แทบจะทุกคนเป็นคิวนาร์ดเวิร์ลคลับหลายๆคนก็มองกู แต่กูทำเฉยๆ ความจิงแล้วกูเครียด กูเกลียดหมาเชี่ยไลที่พวกผู้โดยสารขนไปเที่ยวด้วย จมเลยมันแต่งตัวสวยกว่าเจ้าของอีก หมาก็คือหมา แม้จะหมาฝรั่งเจ้าของรวยก็ตาม แต่แม่งก็ยังไม่ทิ้งสันดานหมาๆคือชอบยกขาเยี่ยวรดไปทั่วตามขาเก้าอี้ดาดฟ้าเรือ ถ้ากูเป็นเจ้าของหมาห่าพวกนี้กูคงเครียดชิบหาย ทำไมแม่งไม่จ้างใครเลี้ยงก่อนว๊า แม่งเล่นเอาขึ้นเรือมาด้วย น่าถีบตกมหาสมุทรจังว่ะ กั่กกกก กูซะอย่าง เออ..แม่งจบๆแล้วก็แล้วกันไป มาเริ่มชีวิตใหม่ มันผ่านไปแล้วละมันจะไม่หวลคืนกลับมาอีก ดังคัมภีร์เต๋าเขียนไว้ว่า ....ว่าอะไรน๊ากูละลืม พับผ่าเอ๊ย


Create Date : 2 มกราคม 2554

 


เกี่ยวกะผู้เขียน กูก็เป็นมนุษย์คนนึง ไม่มีห่าไลดีรอก อย่าวาดฝันว่ากูจะเป็นผู้ที่หล่อที่สุดรวยที่สุดเจ๋งที่สุด แต่ว่ากูเป็นเพียงไอ้คนข้างถนนโกโรโกโสคนนึงซึ่งไม่มีเพื่อน ชอบคุยกะคอม ชอบยัดห่าเบียร์เวลาดีใจเชี่ยไลบ้างเป็นบางครั้ง แต่จะยัดทุกวันไปเพื่ออะไร เพราะมันเปลือง กูไม่ใช่คนร่ำรวยเสียเมื่อไหร่ มีข้าวยัดห่ามีที่ซุกหัวนอนก็โก้ชิบหายแล้วทุกวันนี้

อ้อกูมีลูกนะ ลูกกูเป็นกระต่ายน้อย แม่งซนชิบหาย กัดสายไฟบ้านกูช๊อตเลยละ สายโทสับสายคอม แม่งกัดกระชาก usb ปริ้นเตอร์กูกระเด็นเลย แม่งแสบจิงๆ แต่กูก็รักมันมากนะ

 
โอ๊ย บล๊อกของกูน่ะนะ มันไม่ได้มีค่ามีราคาจะให้คัยมาก๊อปปี้รอกว่ะ อย่าคิดให้มาก ปวดหัว